Facebook แอพพลิเคชั่นโซเชียลมีเดียที่ครองความนิยมมาได้อย่างยาวนาน
แอพพลิเคชั่นโซเชียลมีเดีย มาเป็นเวลานานหลายสิบปี แต่ที่มาได้รับความนิยมในช่วงที่อินเทอร์เน็ตนั้นใช้กันอย่างแพร่หลายแล้ว เห็นทีจะเริ่มตั้งแต่ในยุค Hi5 เป็น Social Media ที่ได้รับความนิยมและมีคนไทยใช้เป็นจำนวนมาก แต่หลังจาก Hi5 ได้รับความนิยมอยู่เพียงแค่ไม่กี่ปีเท่านั้น Facebook ก็เริ่มที่จะมีชื่อเสียงขึ้นมา และใครจะทราบได้ว่า Application ใหม่นี้จะสามารถล้มยักษ์ใหญ่อย่าง Hi5 ลงได้และยังคงสามารถครองความนิยมมาได้จนถึงปัจจุบันเป็นเวลายาวนานนับสิบปี ทำให้นักพัฒนาเว็บไซต์ดังกล่าวอย่าง มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก นั้นกลายเป็นเศรษฐีในเวลาอันรวดเร็ว ในช่วงแรกที่มันได้รับความนิยมนั้นมีข่าวกระจายอย่างแพร่หลายว่าในสหรัฐอเมริกานั้นมีผู้ใช้เว็บไซต์ดังกล่าวเจอกับเพื่อนตั้งแต่สมัยประถมเพียงแค่ค้นหาชื่อเท่านั้น หลังจากนั้นเขาก็สามารถรวบรวมเพื่อนเก่าได้ทั้งห้องในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้ผู้คนนั้นหันมาสนใจเว็บไซต์ดังกล่าวมากยิ่งขึ้นและหลังจากนั้นก็มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากจนในปัจจุบันมีผู้ใช้งานจำนวนหลายล้านคน และเมื่อโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนได้รับความนิยมทางผู้พัฒนาก็ได้จัดการแปลงเว็บไซต์ดังกล่าวให้สามารถใช้งานได้ในรูปแบบแอพพลิเคชั่นในที่สุด แรกเริ่มเดิมทีนั้นเว็บไซต์ดังกล่าวก่อตั้งตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2548 เดิมทีนั้นเปิดให้ใช้งานเฉพาะกลุ่มนักศึกษาในมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ดเท่านั้น แต่ใช้เวลาเพียงแค่ 2 สัปดาห์เว็บไซต์ดังกล่าวก็มีชื่อเสียงโด่งดังและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มนักศึกษา และนักศึกษาจากหลายมหาวิทยาลัยก็เริ่มมีความสนใจที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกใน Facebook เช่นเดียวกัน สุดท้ายแล้วเว็บไซต์ดังกล่าวนี้ก็ได้เปิดให้บริการให้กับคนทั่วไปในที่สุด
Facebook นั้นเติบโตอย่างรวดเร็วและสามารถทำกำไรได้อย่างงดงามให้กับกลุ่มผู้พัฒนา จนในที่สุดพวกเขานั้นก็สามารถทำการรวบซื้อ Instagram ได้ ดังนั้นหากสังเกตให้ดีเราจะพบว่า Interface หรือฟีเจอร์ต่างๆ ที่สามารถใช้ได้บน Facebook นั้นก็จะสามารถใช้ได้บน Instagram เช่นเดียวกัน แม้ว่าจะมีลูกเล่นที่แตกต่างกันออกไปก็ตาม เพราะว่าแต่ละ Application นั้นก็มีความโดดเด่นในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ด้วยเหตุนี้ทำให้ Facebook นั้นกลายเป็นบริษัทเนื้อหอมที่มีหลายบริษัทต้องการจะเข้ามาซื้อกิจการ แต่ดูเหมือนว่ามาร์ค ซัคเคอร์เบิร์กที่ปัจจุบันนั้นกลายเป็น CEO แล้วยังคงสามารถรักษาบริษัทเอาไว้ได้เป็นอย่างดีและยังคงถือครองมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะ Facebook นั้นยังคงมีโอกาสเติบโตและก้าวหน้าอยู่มาก เพราะเมื่อเทียบกับคู่แข่งอื่นแล้ว Facebook นั้นถือว่าทิ้งห่างมาไกลมากเลยทีเดียว และบาง Application นั้นในเอเชียไม่นิยมใช้กันด้วยซ้ำไป และมีผู้ใช้ในประเทศไทยจำนวนน้อยมาก